Posts

"ฝัน" ที่แปรเปลี่ยนไป

Image
ฝันที่แปรเปลี่ยนไป ในยุคปัจจุบัน โลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย โลกที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งและแข่งขันในชีวิตของเราทุกๆด้าน เป็นความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและต่อเนื่องอย่างไร้ขีดจำกัด ควมจริงในตอนนี้ คือ โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว และกำลังผลักดันเราอย่างต่อเนื่อง และบอกกับเราว่าสิ่งที่เราคิดและสิ่งที่เรากำลังฝันนั้นกำลังจะล้าสมัย คำตอบของทุกๆวันเปลี่ยนไป  นั่นหมายความว่าในขณะที่เรากำลังวางแผนความฝัน คู่แข่งของเราอาจจะกำลังพัฒนาคิดค้นสิ่งใหม่ๆอยู่ก็เป็นได้ ฝันในปัจจุบันนี้ เราไม่ได้มีเพียงแค่คำว่า คู่แข่ง แต่เรากำลังแข่งกับกับเทคโนโลยีที่มีบทบาทในชีวิตประจำวันอย่างมาก และต้องแข่งกับตัวเอง เพราะแท้จริงแล้วเราหนีไม่พ้นที่จะต้องปรับเปลี่ยนความฝันของเราให้ทันในยุคเทคโนโลยี สิ่งที่เราคิดจะทำนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องนำมาอยู่บนมือถือของทุกคนให้ได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ หากเราไม่ติดตามและไม่ทันกับสิ่งใหม่ๆ ช่างน่ากลัวและน่าใจหายจริงๆครับ ฝันที่เราวางไว้ได้ตอนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้วครับ เพราะโลกเปลี่ยนไปแล้ว บอกตัวเราเองได้เลยว่า การแข่งขันตอนนี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้

"เอกลักษณ์และตัวตน" ในความไม่สมบูรณ์แบบ

Image
 ความไม่สมบูรณ์แบบ สร้าง  "เอกลักษณ์และตัวตน" - ที่พักไม่ได้อยู่ใกล้หาด - ถนนลูกรัง - ที่พักไม่มีสระว่ายน้ำ - ไม่มีกิจกรรมให้ทำอะไร และอีกหลายๆคำถามที่ผมไล่เรียบเรียงถามตัวเองจากความต้องการพื้นฐานโดยทั่วไป ผมจะจัดการปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไรในเมื่อมันมีความไม่สมบูรณ์แบบกับสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ ใช่ครับ ยอมรับแบบตรงๆว่า ความคิดในตอนแรกนั้น ผมได้พยายามเพียงแค่สร้างที่พักขึ้นมาให้ได้ เป็นปัจจัยหลักของผม โดยไม่ได้คิดคำนึงถึงอย่างอื่นมากมายนัก ครั้นพอทุกอย่างเสร็จสิ้นกลับกลายเป็นว่าผมต้องมานั่งทำการบ้านครั้งใหญ่เพื่อสร้างตัวตนที่พักของผมให้กับโลกใบนี้ได้รู้จักว่า "เราคือใคร" ผมว่า ผมโชคดีมากครับจากที่ผมนั่ง list รายการว่าในความไม่สมบูรณ์แบบที่ผมมีนั้น มันเป็นคำถามที่ตรงไปตรงมา ที่ผมจะต้องหาทางแก้ไขโดยทันทีจะด้วยวิธีไหนก็ตาม ผมเคยบอกว่า การลงมือทำนั้นยาก แต่มาตอนนี้ การลงมือทำแล้วให้ยั่งยืนนั้นยากยิ่งกว่าครับ จากคำถามและทางออกคร่าวๆเบื้องต้นของผมครับ - ที่พักไม่ได้อยู่ใกล้หาด ​: ผมสร้างป่าให้กับที่พัก มีรถให้เช่า มีสามล้อรับส่ง แถมยังเพิ่ม

เปลี่ยน "กรอบความคิด"

Image
"กรอบความคิด" ที่ต้องเปลี่ยน เราทุกคนที่เกิดมา ล้วนมีความคิดที่แตกต่างกันออกไป ต่างคนก็ต่างความคิด แต่ความคิดโดยส่วนใหญ่รวมทั้งตัวผมเอง ตั้งแต่เล็กจนโต เหมือนกับเราถูกสั่งสอนให้เลือกคำตอบที่ถูกที่สุดนั้นว่า มีเพียงแค่คำตอบเดียว เริ่มตั้งแต่สมัยประถมตลอดจนชีวิตในวัยเรียน จากข้อสอบเรามักจะต้องเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงแค่ข้อเดียว ก ข ค ง จ...แต่แท้ที่จริงแล้วคำตอบในชีวิตไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยครับ คำตอบที่ถูกที่สุดคือกรอบความคิดของเราเองต่างหาก ไม่ว่าจะเลือกตอบข้อไหน ข้อนั้นก็ถูกต้องได้เสมอเพราะกรอบความคิดของเราสามารถพัฒนาได้ครับหากเราเชื่อมั่นและแสดงให้เห็นว่าคำตอบของเราเป็นแบบนี้เพราะอะไร... ในชีวิตจริงหากเราคิดพิจารณาดูใหม่ผมเชื่อว่า คนเราสามารถพัฒนาความคิดของตัวเองได้เสมอครับเพราะความสำเร็จไม่ได้เป็นเรื่องของคำตอบที่เราเลือกแต่ความสำเร็จเป็นสิ่งที่เราเรียนรู้และพัฒนาจากกรอบความคิดของเราโดยที่เรามุ่งมั่นและลงมือทำอย่างจริงจังกับกรอบความคิดที่เราวางไว้ ผมได้คุยกับเพื่อนๆหลายคน หลังจากที่ไม่ได้พบปะกันนานและได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันตามประสา หนึ่งในนั้นคือเรื่องอยากทำ

แรกรู้จัก Airbnb ในปี 2014

Image
วันแรกที่ผมได้รู้จักกับ Airbnb จากบ้านฝรั่งเช่าหลังแรก แน่นอนครับว่าผมต้องการที่จะให้บ้านของผมมีลูกค้ามาเช่าตลอดทั้งปี ช่องทางการตลาดเป็นอีกปัจจัยสำคัญ และถือเป็นงานสำคัญที่สุดของผมเพราะต่อให้ผมทำบ้านออกมาสวยขนาดไหน ดีอย่างไร แต่ไม่มีคนมาเช่า ทุกอย่างก็จบและจอดเหมือนกันครับ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 กับบ้านเช่าหลังแรกของผม ตอนนั้นแทบไม่ได้คิดอะไรมากมายกับงานขายบ้านคิดว่าแค่บ้านมีเว็บไซต์อย่างเดียวก็จบ เชื่อมั่นว่าอย่างไรแค่บ้านหลังเดียวก็มีคนมาเช่าอยู่แล้ว ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านี้เพราะตอนนั้นยุคโซเชียลในบ้านเราถือว่าไม่ได้เฟื่องฟูมากเหมือนในปัจจุบัน ด้วยความบังเอิญคืนนึงชาวรัสเซียที่มาเช่าบ้านผม มาบอกกับผมว่าค่ำนี้เขาจะปิ้งย่างกันมาชวนผมไปด้วยผมก็ตอบตกลง พอถึงตอนค่ำผมก็ไปเจอกับลูกค้าชาวรัสเซีย และพบว่ามีเพื่อนเขามาร่วมด้วย เชื่อไหมครับว่า ชาวรัสเซีย ก่อไฟกับถ่านบ้านเราอย่างกับมืออาชีพ ผมถามว่า เขาใช้อะไรในการก่อไฟ พวกเขาต่างพากันหัวเราะ และชี้ให้ผมดู มันคือรองเท้าแตะของเขาครับ ซึ่งสภาพแหว่งไปแล้วครึ่งนึงครับ เราต่างถึงกับฮากันเลยทีเดียวครับ นั่งคุยกันไ

"ความฝัน" ที่ไม่มีต้นทุน

Image
" ความฝันของเรา เราต้องทำเอง" ถามใจตัวเอง พร้อมหรือยังกับคำว่า ลงมือทำอย่างเป็นจริงเป็นจัง การลงมือทำที่มากขึ้น การที่เป็นทุกอย่าง? กับคำถามที่เกิดขึ้นมากมายภายใต้จิตใจของผมที่กำลังถามกับตัวเองในตอนนั้น ใช่ครับที่ผมพยายามทุ่มเททำทุกอย่างทั้งหมดที่ผ่านมามันเป็นเรื่องที่ดี ทุกอย่างเริ่มที่จะเติบโตขึ้น แต่ทว่าในวันนี้อีกมุมมองด้านนึงของผมรับรู้ได้ว่าสิ่งที่ผมทำอยู่นั้นมันเล็กเกินไป เพียงแค่นี้ มันยังไม่เพียงพอที่ผมจะเลี้ยงตัวเองได้ หากเป็นแบบนี้แล้ว ผมจะเรียกว่า "อิสรภาพ" ได้อย่างไรจริงไหมครับ คิดตามเสียงเรียกของหัวใจ อย่ากังวลกับเหตการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้นมากจนเกินไปได้แต่บอกแบบนี้กับตัวเอง เพราะหากเราคิดมากจนเกินไปสิ่งเหล่านี้จะมาลดทอนและสร้างความกลัวให้กับตัวเราจนบางครั้งตัวเราไม่กล้าที่จะเดินต่อไป ในเมื่อความเป็นจริงแล้ว เมื่อเราเริ่มลงมือทำ ทำให้ดีที่สุด ทุกอย่างจะมีทางออกให้กับตัวเราเองอย่างอัตโนมัติ นี่คือความเป็นจริงของโลกใบนี้ และมันเป็นแบบนี้จริงๆครับ เริ่มทำในสิ่งที่ใหญ่ขึ้น หลังจากที่ผมคิดมาระดับนึงแล้ว ก็เริ่มลง

แค่คำว่า ”รัก" คงยังไม่พอ

Image
แน่นอนที่สุดว่า การทำในสิ่งที่เรารัก ไม่ว่าอะไรก็ตาม สิ่งๆนั้นย่อมจะออกมาดีเสมอ แต่สำหรับผมแล้วคำว่า "รัก" อย่างเดียวคงยังไม่พอ :-) ใช่ครับมันไม่พอแน่นอนเพราะคำว่า  "รัก" ใครก็สร้างขึ้นมาได้ ยกตัวอย่างของผม บ้านเช่าใครก็ทำขึ้นมาได้ เขาก็คงจะรักเหมือนกับผมและก็ทำอย่างผมได้เหมือนกันทุกอย่าง แล้วอะไรล่ะ ที่จะทำให้เราไม่เหมือนคนอื่น อะไรล่ะที่มันบอกว่า มันคือตัวตนของเรา? ครับ ผมจะพูดถึงความเป็นเอกลักษณ์ ความพิเศษของเรา "unique" ที่ทำให้เราแตกต่างจากคนอื่น ผมเองก็นั่งคิดอยู่นานไม่น้อยกว่าจะค้นหา unique ของตัวเองเจอจากกล้วยน้ำว้า ท่านที่อ่านคงจะงงใช้ไหมครับว่า กล้วยน้ำว้า มันเกี่ยวอะไรกับบ้านเช่า ผมจะเล่าเรื่องราวในวันนั้นให้ได้อ่านครับ  กล้วยน้ำว้าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติใกล้กับบ้านเช่าของผม วันนั้นผมนั่งอยู่ระเบียงบ้านเช่าหันหน้าไปทางต้นกล้วยน้ำว้าพอดี ได้สังเกตุเห็นสีและใบอ่อนของกล้วยน้ำว้าแล้วรู้สึกว่ามันสวย รู้สึกดูอบอุ่น เยือกเย็นและสงบ ผมจึงได้ความคิดนำ ใบกล้วยมาทำเป็นโลโก้บ้านเช่าของผม และผมก็เริ่มทำเว็บไซต์บ้านเช่าของผมโดย

เปิดใจเรียนรู้ "ให้" สู่รายได้ยั่งยืน

Image
"เริ่มต้นลงมือทำที่บอกว่ายาก แต่ยากยิ่งกว่า คือ ทำอย่างไรให้อยู่ได้" อย่างที่บอกครับว่า เมื่อเราได้เริ่มต้นทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นมาแล้ว ในความรู้สึกตอนแรก เราอาจจะคิดว่าการเริ่มต้นนั้นมันยากสำหรับเราแล้ว แต่ในความเป็นจริง สิ่งที่ยากยิ่งกว่าคือทำอย่างไรให้สิ่งที่เราทำและสร้างขึ้นมานั้นให้ดำเนินได้ต่อไปอย่างต่อเนื่องและสามารถทำรายได้ให้กับเราแบบยั่งยืน... ผมจะยกตัวอย่างจุดเปลี่ยนความคิดการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆจากประสบการณ์ของผม ให้ได้ลองอ่านกันดูนะครับ จะหาลูกค้าเพิ่มขึ้นได้อย่างไร? ทำอย่างไรให้ลูกค้าชอบบ้าน? ทำอย่างไรจะขายให้ได้ราคา? ทำอย่างไรให้อยู่บ้านแล้วรู้สึกสบายและผ่อนคลายที่สุด? และอีกหลายๆคำถามมากมายในสมองของผมในวันนั้นที่ถามกับตัวเอง เมื่อลูกค้าคนแรกย้ายออกไป ทุกๆคำถามผมมักจะไปนั่งคิดอยู่หน้าบ้านเช่าของผม มองตัวบ้าน มองออกไปรอบๆ ความคิดหนึ่งผุดเข้ามาในความคิดของผม ผมต้องเริ่มต้นที่จะเรียนรู้ด้วยตัวของผมเอง "คืนนี้ลูกค้าบ้านเช่าของผมคือ ตัวผมเอง" ผมเริ่มต้นจัดเตรียมบ้านทุกอย่างพร้อมเปรียบเสมือนว่า ผมจะมีลูกค้ามาพั

ลูกค้าฝรั่ง (แสนแสบ) คนแรก

Image
เท้าความ ก็อย่างที่บอกแหละครับ ก่อนที่ผมจะมาจบที่บ้านเช่าหลังแรก ผมได้ทดลองทำอะไรต่างๆมามากมายตั้งแต่เริ่มต้นทำงาน เปิดร้านคอมพิวเตอร์ในยุค 90 ควบคู่ไปกับงานประจำ อะไรที่ทำเงินและคิดว่าดี เรียกได้ว่าผมจะนำมาศึกษาและทดลองทำอยู่หลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับด้านออนไลน์เพราะถือว่าเป็นการเริ่มต้นทำที่ลงทุนน้อยที่สุด โดยมีแบบอย่าง ผู้มีพระคุณ เปรียบเสมือนพี่ที่ปรึกษาและหลายๆอย่างจาก คุณอดุลย์ หลังปูเต๊ะ เจ้าของเว็บไซต์ www.thaihoteljob.com เว็บหางานโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในขณะนั้น ซึ่งมีรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการทำเว็บไซต์ออนไลน์ ผมเริ่มต้นศึกษาการทำเว็บออนไลน์มากขึ้นจนเกิดเป็นเว็บ www.krabiall.com เว็บแรกของผม ซึ่งในช่วงแรกทำให้ผมได้รับรายได้จากการลงโฆษณาอยู่บ้าง แต่ก็นั่นแหละครับ เหมือนมันยังไม่ใช่สำหรับผม ระหว่างทาง วันนึงผมขับรถไปทำงานพอถึงสามแยก ผมมองเห็นป้ายประกาศขายที่ดิน บ้านเช่า ผมก็เลยคิดว่าทำไมผมไม่เอาป้ายเหล่านี้มาอยู่บนเว็บล่ะ ระหว่างขับรถไปถึงที่ทำงานผมคิดเรื่องนี้มาตลอด จนผมกลับมาและเริ่มทำเว็บบ้านเช่า ขายบ้านและที่ดิน www.krabirentalhouse.com เป็นเว็บที