เปลี่ยน "กรอบความคิด"
"กรอบความคิด" ที่ต้องเปลี่ยน
เราทุกคนที่เกิดมา ล้วนมีความคิดที่แตกต่างกันออกไป ต่างคนก็ต่างความคิด แต่ความคิดโดยส่วนใหญ่รวมทั้งตัวผมเอง ตั้งแต่เล็กจนโต เหมือนกับเราถูกสั่งสอนให้เลือกคำตอบที่ถูกที่สุดนั้นว่า มีเพียงแค่คำตอบเดียว
เริ่มตั้งแต่สมัยประถมตลอดจนชีวิตในวัยเรียน จากข้อสอบเรามักจะต้องเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงแค่ข้อเดียว ก ข ค ง จ...แต่แท้ที่จริงแล้วคำตอบในชีวิตไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยครับ คำตอบที่ถูกที่สุดคือกรอบความคิดของเราเองต่างหาก ไม่ว่าจะเลือกตอบข้อไหน ข้อนั้นก็ถูกต้องได้เสมอเพราะกรอบความคิดของเราสามารถพัฒนาได้ครับหากเราเชื่อมั่นและแสดงให้เห็นว่าคำตอบของเราเป็นแบบนี้เพราะอะไร...
ในชีวิตจริงหากเราคิดพิจารณาดูใหม่ผมเชื่อว่า คนเราสามารถพัฒนาความคิดของตัวเองได้เสมอครับเพราะความสำเร็จไม่ได้เป็นเรื่องของคำตอบที่เราเลือกแต่ความสำเร็จเป็นสิ่งที่เราเรียนรู้และพัฒนาจากกรอบความคิดของเราโดยที่เรามุ่งมั่นและลงมือทำอย่างจริงจังกับกรอบความคิดที่เราวางไว้
ผมได้คุยกับเพื่อนๆหลายคน หลังจากที่ไม่ได้พบปะกันนานและได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันตามประสา หนึ่งในนั้นคือเรื่องอยากทำธุรกิจไม่อยากเป็นลูกจ้างอีกแล้ว เบื่อ ไม่ก้าวหน้า และด้วยอีกหลายเหตุผลต่างๆนาๆ ของแต่ละคน ผมถามกลับไปว่า แล้วทำไมไม่ออกมาทำอะไรเป็นของตัวเองละ และคำตอบที่ผมได้รับคือ มันต้องใช้เงินในการลงทุน
ผมเข้าใจทันทีว่า "กรอบความคิด" แบบนี้เป็นกรอบความคิดที่ผิดและปิดกั้นตัวเองมากกับสังคมในยุคปัจจุบัน เพราะเป็นกรอบความคิดที่บอกว่ามันเป็นเรื่องที่ยากโดยใช้เงินเป็นที่ตั้ง
แท้จริงแล้วยุคปัจจุบันนี้เราแทบไม่ต้องลงทุนใดๆเลยกับการเริ่มต้นทำธุรกิจอะไรก็ตาม เพียงแค่ลงแรงของตัวเราเอง เพราะเราทำงานอยู่ที่ไหนก็ได้ สามารถสื่อถึงคนบนโลกใบนี้ได้อย่างง่ายดายกับยุค Social Network
ผมเชื่อว่า "กรอบความคิด" ที่ปิดกั้นตัวเองโดยสร้างเงื่อนไขขึ้นมานั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะอย่าลืมว่าแค่กรอบความคิดที่จะทำอะไรซักอย่างนั้น เรายังบอกว่ายากแล้วเมื่อไหร่เราจะกล้าเริ่มได้ซะที เพราะแค่คิดยังไม่กล้าเลย....
และผมยังเชื่ออีกว่า กรอบความคิด ของเรายังสามารถพัฒนาได้อย่างไม่รู้จบตราบจนที่เรายังอยู่คู่กันกับโลกใบนี้ เชื่อเถอะครับว่า คนเราทำอะไรก็ได้ครับ แต่ที่แน่ๆวันนี้เราต้องเริ่มเปลี่ยน "กรอบความคิด" ของเราให้ไปทางบวกให้ได้ครับ
ขอบคุณครับ
Comments
Post a Comment